PENTOR CAPITAL

นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)

ปรับปรุงล่าสุด เดือนธันวาคม 2567 (v.3.1)

บริษัท เป็นต่อ แคปปิตอล จำกัด (“บริษัท”) มีความใส่ใจในความเป็นส่วนตัวของลูกค้า บริษัทจึงได้จัดให้มีนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เพื่อให้ลูกค้าได้รับทราบถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรวบรวม ใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า (“ท่าน”) เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ และประกาศที่เกี่ยวข้อง   

โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ประเภทข้อมูล และวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก สิทธิของท่าน การรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และวิธีการที่ท่านสามารถติดต่อบริษัท   

ขอบเขตการบังคับใช้

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ใช้สำหรับบุคคลดังต่อไปนี้

1) ลูกค้าของบริษัท

ได้แก่ ลูกค้าเดิมและลูกค้าปัจจุบันของบริษัท ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา รวมถึงข้อมูลบุคคลธรรมดาที่บริษัทได้รับเนื่องจากเป็นผู้เกี่ยวข้องกับลูกค้าองค์กรธุรกิจของบริษัท เช่น กรรมการ ผู้ถือหุ้น ผู้รับประโยชน์ที่แท้จริง พนักงาน ผู้ค้ำประกัน ผู้ให้หลักประกัน และผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของลูกค้าองค์กรธุรกิจ

2) บุคคลที่ไม่ใช่ลูกค้าของบริษัท

บุคคลดังกล่าว รวมถึงบุคคลธรรมดาที่ยังมิได้มีผลิตภัณฑ์หรือบริการกับบริษัท แต่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น บุคคลที่เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท ผู้สมัครงาน ผู้ค้ำประกันหรือผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง ที่ปรึกษาด้านวิชาชีพ รวมถึงกรรมการ ผู้ลงทุน และผู้ถือหุ้นของบริษัท และตัวแทนโดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลดังกล่าว และบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมกับบริษัท หรือลูกค้าของบริษัท

ทั้งนี้ ในบางกรณี บริษัทอาจมีการวางลิงก์ หรือนำท่านเข้าสู่แพลตฟอร์มของบุคคลภายนอกได้ ซึ่งหากท่านได้เข้าสู่แพลตฟอร์มของบุคคลภายนอกแล้ว การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกนั้นทั้งสิ้น ซึ่งในกรณีดังกล่าวบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบเมื่อมีการออกจากแพลตฟอร์มของบริษัท

  1. บริษัท เก็บรวบรวม และนำข้อมูลของส่วนบุคคลของท่านไปใช้หรือเปิดเผยอย่างไร

บริษัทจะเก็บรวบรวม และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่จำเป็น หรือมีฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งรวมถึงกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท การดำเนินการตามความยินยอมของท่าน และ/หรือภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ โดยวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของบริษัท ดังต่อไปนี้

1.1 ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท

เนื่องจากบริษัทอยู่ภายใต้การกำกับดูแล และต้องดำเนินการตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องที่ใช้บังคับแก่บริษัท บริษัทจึงมีความจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และกฎระเบียบของหน่วยงานรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้   

ก) เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม

ข) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย (เช่น กฎหมายธุรกิจสถาบันการเงิน กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติ ตามทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ) ซึ่งรวมถึง การดำเนินการสอบทานตัวตน การตรวจสอบประวัติ การตรวจสอบเครดิต การดำเนินการทำความรู้จักลูกค้า (KYC) การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence: CDD) และการตรวจสอบอื่น ๆ (check and screening) (ซึ่งรวมถึงการสอบทานจากฐานข้อมูลสาธารณะของหน่วยงานกำกับดูแล หรือแหล่งอื่นใด และ/หรือ ฐานข้อมูลบุคคลที่ถูกกำหนด/รายชื่อบุคคลที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ 1  (sanction list/blacklist/watchlist) และการตรวจสอบติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นไปตามกฎหมายใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ค) เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบและ/หรือคำสั่งของผู้มีอำนาจ (เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ)

1.2 สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท

บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ตามคำขอ และ/หรือ ข้อตกลงที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้   

ก) ดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญากับบริษัท การพิจารณาอนุมัติเกี่ยวกับการให้บริการ ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการแก่ท่าน และการจัดการในเรื่องต่างๆ ที่ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับผลผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ ทั้งรวมถึงการดำเนินการใด ๆ ของบริษัท ซึ่งหากไม่ได้ดำเนินการจะกระทบต่อการดำเนินการ หรือการให้บริการของบริษัท หรือจะไม่สามารถให้บริการได้อย่างเป็นธรรมและต่อเนื่อง

ข) เพื่อพิจารณาและประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของท่าน โดยอาศัยข้อมูลที่ท่านได้ให้แก่บริษัท รวมถึงข้อมูลที่บริษัทอาจเข้าถึงได้จากแหล่งใด ๆ เช่น ข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ ข้อมูลความช่วยเหลือที่ท่านได้รับจากหน่วยงานรัฐ ข้อมูลที่ท่านเปิดเผยเป็นสาธารณะ เพื่อช่วยให้ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของท่านได้อย่างถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในการให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาหนี้และช่วยวางแผนบริหารจัดการปัญหาหนี้ของท่าน

ค) ยืนยันตัวตนเมื่อเข้าทำหรือจัดการธุรกรรมใด ๆ

ง) ดำเนินการตามคำสั่งของท่าน (เช่น เพื่อดำเนินการตามคำร้องขอเกี่ยวกับวงเงินกู้และสินเชื่ออื่น ๆ การตอบข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะของท่าน หรือดำเนินการแก้ไขตามข้อร้องเรียนของท่าน)

จ) ให้บริการแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (mobile applications) และแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์ออนไลน์อื่น ๆ

ฉ) ติดตาม หรือบันทึก การทำธุรกรรมของท่าน

ช) จัดทำรายงานต่าง ๆ (เช่น รายงานการทำธุรกรรมตามที่ท่านร้องขอ หรือรายงานภายในของบริษัท)

ซ) แจ้งเตือนการทำธุรกรรมของท่าน

ฌ) เรียกชำระหนี้ที่ท่านค้างชำระอยู่กับบริษัท (เช่น ในกรณีที่ท่านยังไม่ได้ชำระหนี้สินเชื่อ และ/หรือค่าธรรมเนียมค้างชำระ)

ญ) ดำเนินการเกี่ยวกับการรักษาสถานะบัญชี และการปฏิบัติการที่เกี่ยวกับบัญชีของท่าน รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การประมวลผลคำขอหรือการร้องขอการบริการ หรือผลิตภัณฑ์ การประมวลผลธุรกรรมของท่าน การออกรายงานแสดงความเคลื่อนไหวของบัญชี (account statement) และการดำเนินการและการปิดบัญชีของท่าน   

ฎ) ดำเนินการ เข้าทำธุรกรรม และ/หรือการชำระหรือรับชำระเงิน เช่น การดำเนินการชำระเงินหรือทำธุรกรรม การดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จของธุรกรรม การทะเบียนวางบิล และประมวลผลอื่น ๆ การเรียกเก็บเงิน การเรียกเก็บดอกเบี้ยและเงินต้น การบริหารความสัมพันธ์กับบริษัท และการดำเนินการทางทะเบียนบริษัทเกี่ยวกับบัญชีของท่านในฐานะลูกค้าของบริษัท

ฎ) บังคับสิทธิตามกฎหมาย หรือตามสัญญาของบริษัท ซึ่งรวมถึงการติดตามทวงถาม หรือเรียกร้องให้ชำระหนี้สินคงค้างใด ๆ และ/หรือ

ฐ) ให้บริการด้านไอที และ helpdesk supports สร้างและคงไว้ซึ่งรหัส และบัญชีผู้ใช้ของท่าน จัดการบัญชีผู้ใช้ของท่าน ให้สามารถเข้าถึงระบบใด ๆ ตามที่ท่านได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึง และยกเลิกบัญชีผู้ใช้ที่ไม่เคลื่อนไหวของท่าน และ/หรือ   

1.3 ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

บริษัทจะอ้างอิงฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยคำนึงถึงประโยชน์ของบริษัทหรือของบุคคลอื่น กับสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้   

ก) บริหารกิจการของบริษัท และของบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน (เช่น ทำการตรวจสอบ บริหารจัดการ และวิเคราะห์ความเสี่ยง เฝ้าระวัง ป้องกัน ระบุ และตรวจสอบการทุจริต การฟอกเงิน การก่อการร้าย การสนับสนุนทางการเงิน การก่ออาชญากรรมอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าองค์กรธุรกิจของบริษัท) แม้อาจเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ หรือเจ้าหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมายไม่ได้กำหนดให้ต้องดำเนินการ ทั้งนี้ รวมถึงการระบุตัวตนของท่านเพื่อป้องกันอาชญากรรมเหล่านั้น   

ข) บริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและท่าน (เช่น ดูแลลูกค้า ประเมินความพึงพอใจ จัดการข้อร้องเรียน)

ค) พัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ รวมทั้งระบบงานต่างๆ ของบริษัท เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการของบริษัท และ/หรือ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการตอบสนองความต้องการของท่าน

ง) ดำเนินการเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจ (business continuity) ของบริษัท

จ) รับมือกับข้อเรียกร้องและข้อพิพาท ซึ่งรวมถึงการดำเนินการแก้ไขพัฒนา การเริ่มต้นดำเนินการ การใช้สิทธิ หรือใช้สิทธิทางกฎหมาย   

ฉ) ติดต่อท่านก่อนที่ท่านจะเข้าทำสัญญาที่เกี่ยวข้องกับบริษัท

ช) ประเมินความเหมาะสม และคุณสมบัติ การเสนอข้อเรียกร้องเพื่อการเสนอราคา และการประกวดราคา และการเข้าทำสัญญาที่เกี่ยวข้องกับท่าน

ซ) ป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การเฝ้าติดตามข้อมูลการใช้เครือข่าย (network activity logs) การระบุเหตุการณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย (security incidents) การดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับการป้องกันความปลอดภัยของข้อมูล และการป้องกันการหลอกลวง การทุจริตและการปฏิบัติผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบความปลอดภัยโดยบุคคลภายนอก ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นลูกจ้าง พนักงาน หรือผู้ให้บริการของบริษัทหรือไม่   

ญ) บริหารโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท การตรวจสอบภายใน การควบคุมภายใน การดำเนินธุรกรรม และการปฏิบัติตามนโยบายและกระบวนการของบริษัท ซึ่งรวมถึงการดำเนินการเกี่ยวกับการควบคุมความเสี่ยง ความปลอดภัย การตรวจสอบบัญชี การเงิน และการบัญชี และการดำเนินการเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจ (business continuity) ของบริษัท

ฎ) ทำวิจัย วางแผน และทำการวิเคราะห์ทางสถิติ เช่น พฤติกรรมการชำระเงินคืนของท่าน การวิเคราะห์ข้อมูล (data analytics) การประเมิน การทำแบบสอบถาม และรายงาน เกี่ยวกับการบริการของบริษัท และพฤติกรรมของท่าน

ฏ) อำนวยความสะดวก แก่การตรวจสอบทางบัญชี ซึ่งกระทำโดยผู้สอบบัญชี หรือการรับบริการจากที่ปรึกษากฎหมาย ที่ถูกแต่งตั้งโดยบริษัท หรือท่าน   

ฐ) ในกรณีที่มีการขาย การโอน การควบกิจการ การฟื้นฟูกิจการ หรือเหตุการณ์ในทำนองเดียวกัน บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้แก่บุคคลที่สามรายใดรายหนึ่งหรือหลายรายซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมนั้น ๆ

ฑ) ดำรงไว้ และปรับปรุงรายชื่อและสมุดรายนามของลูกค้าให้เป็นปัจจุบัน (ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าท่าน) และเก็บข้อมูลติดต่อและเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจจะมีการอ้างถึงท่านในเอกสารเหล่านั้น

ฒ) ปฏิบัติตามเหตุผลทางธุรกิจที่ถูกต้องตามดำเนินการ เช่น การจัดการ การรวบรวม การตรวจสอบบัญชี การวิเคราะห์ และวางแผนสถิติและแนวโน้ม หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน การปฏิบัติการควบคุมทางธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้ และทำให้บริษัทสามารถระบุและแก้ไขปัญหาในระบบ IT เพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยกับระบบของบริษัท ทำการพัฒนา ปฏิบัติการ การดำเนินการ และบำรุงรักษาระบบ IT ของบริษัท และ/หรือ   

ณ) ดำเนินการพัฒนาแบบจำลองการป้องกันการทุจริต การพัฒนาแบบจำลองการประเมินความเสี่ยง และความน่าเชื่อถือทางด้านการเงิน การพัฒนาแบบจำลองการเก็บเงิน การพัฒนาแบบจำลองด้านรายได้ และติดตามผลของแบบจำลองความเป็นไปได้ในการอนุมัติ (propensity to approve)

1.4 ความยินยอมของท่าน

ในบางกรณี บริษัทอาจมีการขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์สูงสุด และ/หรือ เพื่อให้บริษัทสามารถให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้   

ก) มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (sensitive personal data) (เช่น ใช้ข้อมูลชีวภาพ (biometric data) เช่น ข้อมูลการจดจำใบหน้า (face recognition) และ liveness หรือ ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน (ซึ่งในบัตรดังกล่าวจะมีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน ได้แก่ ศาสนา และ/หรือกรุ๊ปเลือดอยู่) ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่านก่อนการทำธุรกรรม กระบวนการทำความรู้จักลูกค้า (KYC) และกระบวนการเรียกเก็บเงิน)

ข) เก็บรวบรวม ใช้ และร้องขอข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในแบบความยินยอมที่เราอาจร้องขอจากท่าน

ค) เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ของท่านไปวิจัยและวิเคราะห์เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่าน และ/หรือ ติดต่อท่านเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่ท่าน   

ง) เก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการช่วยจัดหางาน ดำเนินการประการใด ๆ เพื่อให้ผู้หางานสามารถเข้าถึงตำแหน่งงานที่บริษัทเปิดรับสมัคร และเพื่อการวิเคราะห์ ตรวจสอบประวัติ และคุณสมบัติของผู้สมัครงาน และ/หรือ

จ) เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ของท่านให้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้ (1) วิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลใด ๆ ของท่าน เพื่อประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการที่ตอบสนองความต้องการของท่านอย่างแท้จริง และ (2) ติดต่อท่านเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่ท่านโดยเฉพาะ

1.5. ฐานทางกฎหมายอื่นๆ

นอกเหนือไปจากฐานทางกฎหมายข้างต้น บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ดังต่อไปนี้   

ก) จัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัย หรือสถิติ

ข) ป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

ค) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่

หากข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับจากท่านเป็นข้อมูลที่บริษัทต้องได้มาตามกฎหมาย ตามกฎหมายฉบับบริษัท เพื่อการเข้าทำสัญญากับท่าน บริษัทอาจไม่สามารถให้ผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดหรือบางส่วนของบริษัทแก่ท่านได้ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นแก่บริษัทเมื่อบริษัทร้องขอ   

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขอบเขตของผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่ท่านอาจเคยใช้ หรือสนใจ โดยมีทั้งข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป และข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

ประเภทข้อมูล

ตัวอย่างข้อมูล

รายละเอียดส่วนบุคคล

  • คำนำหน้าชื่อ
  • ชื่อ, ชื่อกลาง, นามสกุล, นามแฝง ,(หากมี)
  • เพศ
  • วันเดือนปีเกิด
  • อายุ
  • การศึกษา
  • สถานภาพสมรส
  • สัญชาติ
  • จำนวนบุคคลที่อยู่ในความดูแล

รายละเอียดการติดต่อ

  • ที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์
  • ที่อยู่ปัจจุบัน
  • ที่อยู่ตามที่ปรากฏบนบัตรประจำตัวประชาชน
  • ที่อยู่ อิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล)
  • หมายเลขโทรศัพท์
  • หมายเลขโทรศัพท์มือถือ
  • หมายเลขโทรสาร
  • ชื่อของตัวแทนหรือผู้มีอำนาจกระทำการแทนในนามของลูกค้าของบริษัท
  • บัญชี หรือ ID สำหรับ Social Media หรือ ID สำหรับการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์
  • ที่อยู่สำหรับการติดต่อทางธุรกิจ
  • หมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อทางธุรกิจ

รายละเอียดที่ใช้ในการระบุตัวตนและการยืนยันตัวตน

  • ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน
  • เลขประจำตัวประชาชน ซึ่งรวมถึง Laser tag วันออกบัตร วันบัตรหมดอายุ ประเทศที่ออกบัตร ตามที่ปรากฏบนบัตรประจำตัวประชาชน
  • ข้อมูลหนังสือเดินทาง
  • ใบอนุญาตขับรถ
  • ลายมือชื่อ
  • หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
  • ทะเบียนบ้าน

รายละเอียดการทำงาน

  • อาชีพ
  • รายละเอียดเกี่ยวกับนายจ้าง
  • ตำแหน่ง
  • เงินเดือนหรือรายได้
  • ค่าตอบแทน
  • ตำแหน่งงาน
  • โบนัส
  • สถานที่ทำงาน

รายละเอียดทางการเงินและข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัท

  • ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการต่างๆ ที่ท่านใช้อยู่
  • ช่องทางและวิธีการที่ท่านปฏิสัมพันธ์กับบริษัท
  • สถานะความเป็นลูกค้าของท่าน ความสามารถของท่านในการได้มาและจัดการสินเชื่อประวัติการชำระเงินบันทึกการทำธุรกรรม
  • ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมของท่าน เช่น ประเภทจำนวน ราคาจำนวน และ เงื่อนไข (หากมี) บันทึกธุรกรรมการชำระเงิน งบการเงินภาษีรายได้ บันทึกการผิดนัดชำระหนี้ รายการเดินบัญชี และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมของท่าน
  • ข้อมูลบัตรเครดิต และ บัตรเดบิต
  • หมายเลขบัญชีและประเภทบัญชี
  • ประวัติบัญชีผู้ใช้
  • สินทรัพย์หมุนเวียน
  • รายรับและรายจ่ายรายเดือน
  • รายละเอียดการชำระเงิน
  • แหล่งที่มาของรายได้

ข้อมูลการวิจัยตลาดข้อมูลการตลาดและยอดขาย

  • การสำรวจความคิดเห็นลูกค้า
  • ข้อมูลและความเห็นที่แสดงออกเมื่อเข้าร่วมวิจัยตลาด เช่น คำตอบของท่านต่อคำถามแบบสอบถาม คำร้องขอทราบ ข้อเสนอแนะและการทำวิจัย
  • รายละเอียดบริการที่ท่านได้รับและความต้องการของท่าน
  • ข้อสรุปเกี่ยวกับท่านซึ่งอ้างอิงจากการติดต่อระหว่างท่านกับบริษัท
  • การสื่อสารที่ท่านต้องการและรายละเอียดหรือเนื้อหาของการสื่อสารระหว่างท่านกับบริษัท

ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ของทางและรายละเอียดทางเทคนิค

  • ตำแหน่งจีพีเอสของท่าน
  • หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address)
  • ข้อกำหนดเฉพาะทางเทคนิคและข้อมูลเฉพาะที่ใช้ระบุตัวตน เช่น เว็บบีคอน (Web beacon) ล็อก (Log) ไอดี อุปกรณ์ (Device ID) รุ่นอุปกรณ์และประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลการเข้าถึง ข้อมูลการเข้าใช้งานแบบ Single sign-on (SSO) การเข้าสู่ระบบ (Login log) วันและเวลาลงทะเบียน เวลาที่เข้าถึง ระยะเวลาที่ใช้บนหน้าเพจของบริษัท คุกกี้ ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ข้อมูลการออกจากระบบ ประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดูประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ การตั้งเขตเวลา (Time zone setting) และสถานที่ตั้ง การตั้งค่าภาษา ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม รุ่นหรือยี่ห้ออุปกรณ์เคลื่อนที่ หมายเลข IMEI เวอร์ชั่นหรือระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์เคลื่อนที่ การใช้ข้อความสั้น (SMS log) ข้อมูลในรายชื่อผู้ติดต่อ อีเมล ปฏิทิน รายการแอปพลิเคชันที่ติดตั้ง วันและเวลาที่ทำการเก็บข้อมูล (Crawling date and time) และเทคโนโลยีอื่นๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม
  • ข้อมูลแอปพลิเคชันอื่นที่ท่านติดตั้งบนอุปกรณ์ของท่าน

ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบ

  • การตรวจสอบเพื่อทรายข้อเท็จจริง (Due diligence) เช่น ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำความรู้จักลูกค้า (KYC) การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer due diligence)
  • การตรวจสอบการฟอกเงินและต่อต้านการก่อการร้าย

ข้อมูลการใช้ การขอใช้บริการ และรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้

  • ข้อมูลการเข้าใช้ระบบของบริษัท และ แอปพลิเคชันของบริษัท
  • สิ่งที่ระบุบัญชีผู้ใช้ได้
  • ชื่อบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่าน
  • ความสนใจ ความต้องการและกิจกรรมการใช้งาน

รายละเอียดการใช้งาน

  • ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์แพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์ และบริการของท่าน
  • ข้อมูลการใช้งานและการตอบสนองต่อการโฆษณาของบริษัท (รวมถึงเนื้อหาที่ท่านเข้าชมลิงก์ที่กดเข้าชม และฟีเจอร์ (Features) ที่ท่านใช้)

รายละเอียดของบุคคลซึ่งท่านอนุญาตให้บริษัททำการติดต่อในกรณีที่ไม่สามารถติดต่อท่านได้

  • คำนำหน้าชื่อ
  • ชื่อ, ชื่อกลาง, นามสกุล, นามแฝง (หากมี)
  • ความสัมพันธ์
  • ที่อยู่
  • หมายเลขโทรศัพท์
  • หมายเลขโทรศัพท์มือถือ
  • ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล)

ข้อมูลของคู่สมรส

  • คำนำหน้าชื่อ
  • ชื่อ, ชื่อกลาง, นามสกุล, นามแฝง (หากมี)
  • สถานภาพสมรส
  • จำนวนบุคคลที่อยู่ในความดูแล
  • อาชีพ
  • ประเภทของที่อยู่อาศัย
  • สถานะความเป็นเจ้าของในที่อยู่อาศัย

ข้อมูลเกี่ยวกับเงินกู้

  • ข้อมูลเกี่ยวกับการอนุมัติเงินกู้
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายเงินกู้
  • ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการชำระเงิน

ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย

  • รูปภาพ
  • ลักษณะรูปพรรณสัณฐานบุคคล
  • การตรวจพบข้อสงสัยหรือกิจกรรมที่ผิดปกติ
  • ภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
  • บันทึกวิดีโอ

ข้อมูลเกี่ยวกับการได้รับความช่วยเหลือจากรัฐ

  • สถานการณ์ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐในโครงการที่เกี่ยวข้อง
  • สิทธิ์ในการเข้าถึงความช่วยเหลือจากรัฐในโครงการที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอื่นๆ

  • บันทึกการโต้ตอบและการสื่อสารระหว่างท่านกับบริษัทไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีใดๆ ก็ตาม เช่น โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และ การสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social media) แชทบอท (Chatbot) เป็นต้น
  • ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือปรากฏในใบสมัครงานของท่าน
  • ข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไม่ว่าผ่านช่องทางใดๆ
  1. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

โดยทั่วไปแล้วบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง (เช่น ผ่านแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (mobile applications) และศูนย์บริการลูกค้า) แต่ในบางกรณีบริษัทอาจได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาโดยอ้อม จากแหล่งอื่น (เช่น สื่อสังคมออนไลน์ (social media) แพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลที่สาม หรือแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ) และผ่านทางธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือ ผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจ เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานผู้มีอำนาจตามกฎหมาย หรือบุคคลที่สาม (เช่น ผู้แทนของท่าน นายจ้าง ผู้สนับสนุน (sponsor) และบุคคลที่สามที่มีบทบาทในการให้บริการแก่ท่าน หรือบุคคลใด ๆ ที่ทำดำเนินการในนามของบุคคลเหล่านี้) ซึ่งบริษัทจะดำเนินการให้เป็นไปตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด

  1. สิทธิตามกฎหมายของท่าน

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

4.1 สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านมีสิทธิเข้าถึงและได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีอยู่ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบต่อก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

4.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัททำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วน

4.3 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ หรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทจะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน

4.4 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี เช่น บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือคำขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือท่านขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

4.5 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่บริษัทดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่าน โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น บริษัทสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท

4.6 สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทสามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย

4.7 สิทธิในการขอถอนความยินยอม

ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทเมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทกำหนด เว้นแต่โดยสภาพไม่อาจถอนความยินยอมได้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่มีผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ หากท่านถอนความยินยอม บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการบางประเภทแก่ท่าน (หรือให้บริการต่อเนื่องบางประเภทแก่ท่าน)

4.8 สิทธิในการร้องเรียน

ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากบริษัทกระทำการอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคล หรือองค์กรดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล   

ก) บริษัทแม่ บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของบริษัทแม่ พันธมิตรทางธุรกิจ และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย รวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัท และ/หรือ ของบุคคลดังกล่าว

ข) หน่วยงานของรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด

ค) คู่ค้า ตัวแทน หรือองค์กรอื่น เช่น สมาคมวิชาชีพที่บริษัทเป็นสมาชิก ผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ คลังเก็บเอกสาร สถาบันการเงินต่างประเทศ และสำนักหักบัญชี ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลบุคคลส่วนบุคคลของท่านจะมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเจาะจง ภายใต้ฐานทางกฎหมาย และมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม

ง) บุคคลที่เกี่ยวข้องในการขายสิทธิเรียกร้อง และ/หรือ ทรัพย์สิน การปรับโครงสร้างองค์กร หรือการควบรวมกิจการของบริษัท ซึ่งบริษัทอาจมีการโอนสิทธิไปยังกิจการดังกล่าว รวมถึงบุคคลต่าง ๆ ที่บริษัทจำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูลเพื่อการขายสิทธิเรียกร้อง และ/หรือ ทรัพย์สิน การปรับโครงสร้างองค์กร การทำรายการทางการเงิน การจำหน่ายทรัพย์สิน หรือธุรกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับกิจการ และ/หรือ ทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินกิจการของบริษัท   

จ) ธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ๆ รวมทั้งบุคคลภายนอก ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อช่วยเหลือบุคคลดังกล่าวได้ รับเงินคืนในกรณีที่มีการนำเงินเข้าบัญชีของท่านโดยผิดพลาด หรือการตรวจสอบเส้นทางการเงินในกรณีที่ท่านตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางการเงิน หรือในกรณีที่มีเงินที่ต้องสงสัยเข้ามายังบัญชีของท่านจากอาชญากรรมทางการเงิน   

ฉ) ตัวแทนทวงถามหนี้ นายความ บริษัทข้อมูลเครดิต หน่วยงานป้องกันการทุจริต ศาล หน่วยงาน หรือบุคคลใด ๆ ที่บริษัทถูกกำหนดให้ต้องอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย กฎระเบียบ หรือคำสั่ง

ช) บุคคลภายนอกที่ให้บริการต่าง ๆ แก่บริษัท เช่น ผู้ให้บริการ customer service ผู้ให้บริการ IT service การวิเคราะห์และการเปรียบเทียบทางการตลาด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงตัวแทนธนาคารต่างประเทศ (correspondent banking) ตัวแทน หรือผู้รับเหมาช่วงที่ทำการแทนบริษัท เช่น บริษัทที่จัดพิมพ์และนำส่งรายการบัตรเครดิต (credit card statements)   

ซ) ผู้ให้บริการด้านสื่อสังคมออนไลน์ (ในรูปแบบที่ปลอดภัย) หรือบริษัทโฆษณาภายนอก เพื่อแสดงข้อความให้แก่ท่าน และบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท โดยบริษัทโฆษณาภายนอกอาจใช้ข้อมูลประวัติกิจกรรมออนไลน์ของท่าน เพื่อจัดสรรโฆษณาที่ท่านอาจสนใจ ณ) ผู้ให้หลักประกันที่เป็นบุคคลภายนอก

ฌ)  ผู้ให้หลักประกันที่เป็นบุคคลภายนอก

ญ) บุคคลอื่นใดที่ให้ผลประโยชน์หรือให้บริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของท่าน และ/หรือ

ฎ) ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ตัวแทน หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่านที่มีอำนาจตามกฎหมายโดยชอบ

  1. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

เนื่องจากกิจการในปัจจุบันเป็นธุรกิจที่ครอบคลุมทั่วโลก ในบางครั้งบริษัทจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ในกรณีนี้บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ หรือผู้รับข้อมูลของบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือด้วยวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึงกรณีดังต่อไปนี้

ก) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย

ข) ได้แจ้งให้ท่านทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทางและได้รับความยินยอมจากท่าน

ค) ปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านทำไว้กับบริษัท หรือตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญา

ง) ปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน

จ) ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้ หรือ

ฉ) ดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

  1. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้าของบริษัทและเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัท (เช่น หลังจากที่ท่านปิดบัญชีที่มีอยู่กับบริษัท หรือนับแต่การทำธุรกรรมกับบริษัท หรือกรณีบริษัทปฏิเสธคำขอใช้บริการของท่าน หรือท่านขอยกเลิกการใช้บริการของบริษัท) บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทและวัตถุประสงค์ตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวของกำหนด (เช่น กฎหมายธุรกิจสถาบันการเงิน กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง กฎหมายการบัญชี กฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงาน และกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ)

  1. การใช้คุกกี้

บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เมื่อท่านใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท รวมถึงการใช้เว็บไซต์ และแอปพลิเคชันของบริษัท

การเก็บรวบรวมคุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกันดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถจดจำท่านทราบถึงความชื่นชอบของท่าน และปรับปรุงวิธีการที่บริษัทจะเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการให้แก่ท่าน บริษัทอาจใช้คุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น ให้ฟังก์ชันพื้นฐานสามารถทำงานได้ ช่วยให้บริษัทเข้าใจวิธีการที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทหรืออีเมล ช่วยให้บริษัทสามารถมอบประสบการณ์ผ่านช่องทางออนไลน์หรือการติดต่อสื่อสารกับท่านได้ดียื่งขึ้น และเพื่อให้มั่นใจว่าสื่อโฆษณาออนไลน์ที่ได้แสดงแก่ท่านมีความเกี่ยวข้องและเป็นสิ่งที่ท่านสนใจยิ่งขึ้น

ท่านสามารถปิดหรือควบคุมการใช้งานคุกกี้ด้วยการตั้งค่าเว็บบราวเซอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารที่ท่านใช้งานการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าที่ท่านยอมรับไว้อาจส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการทั้งหมดหรือบางส่วนของเว็บไซต์ได้

  1. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม

บริษัทมีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเฝยข้อมูลส่วนบบุคคลมีผลบังคับต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งบริษัทเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้

  1. การรักษาความปลอดภัย

บริษัทมีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยภายในบริษัทและการใช้บังคับนโยบายอย่างเข้มงวดในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย โดยบริษัทกำหนดให้บุคลากรของบริษัทและผู้รับจ้างภายนอกจะต้องปฎิบัติตามมาตรฐานและนโยบายความเป็นส่วนบุคคลที่เหมาะสม รวมถึงจะต้องจัดให้มีการดูแลรักษาข้อมูลและมีมาตรการที่เหมาะสมในการใช้หรือการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  1. วิธีการติดต่อบริษัท

หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท หรือต้องการขอใช้สิทธิของท่าน โปรดติดต่อบริษัทผ่านช่องทาง บริษัท เป็นต่อ แคปปิตอล จำกัด โทร. 02-279-5556 เวลาในการทำการ ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น.

นอกจากนี้ ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยติดต่ออีเมล [email protected] หรือติดต่อสำนักงานใหญ่ของบริษัท เลขที่ 304 อาคารวานิชเพลส อารีย์ ชั้น 16 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400

  1. การเปลี่ยนแปลงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว โดยบริษัทจะแจ้งประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปัจจุบันไว้ที่เว็บไซต์ของบริษัท (https://pentorcapital.com/นโยบายการคุ้มครอง)