“มีประกันรถไว้ อุ่นใจกว่า”

     เมื่อพูดถึงรถยนต์ ในปัจจุบันเปรียบเหมือนเป็นปัจจัยหนึ่งในชีวิตประจำวัน ที่คนเรามีความต้องการใช้มากขึ้นในการเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ เพื่อประกอบอาชีพ ติดต่องาน การท่องเที่ยว การเรียนการศึกษา และอื่น ๆ อีกมากมาย หากคุณเป็นหนึ่งคนที่มีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์สิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งคงหนีไม่พ้นการทำ “ประกันภัยรถยนต์” เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อใด

     แน่นอนว่า อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ถ้าหากเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เราจะมีวิธีการรับมืออย่างไร เพื่อลดภาระและผลกระทบที่จะตามมาไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้เจ้าของรถจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่นที่เป็นคู่กรณีด้วย การมีประกันรถยนต์ไว้จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เราอุ่นใจมากยิ่งขึ้น

เหตุผลหลักที่ต้องมีประกันรถยนต์

  1. เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายที่จะตามมาหลังจากเกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์ อาทิเช่น ค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยต่อคู่กรณี   ค่าชดใช้ต่อทรัพย์สินที่เสียหาย
  2. กรณีเกิดการโจรกรรม ทำให้รถยนต์สูญหายการมีประกันรถยนต์จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้คุณอุ่นใจมากขึ้น

การเลือกประกันภัยรถยนต์ควรพิจารณาจากปัจจัย ดังนี้

1. เลือกแบบประกันที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรามากที่สุด

     ประกันรถยนต์แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

     – ภาคบังคับ ( พ.ร.บ. ) กฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องจัดให้มีประกันภัยอย่างน้อยที่สุดคือ การทำประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

  1. เพื่อคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เพราะเหตุประสบภัยจากรถ โดยให้ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที กรณีบาดเจ็บ หรือช่วยเป็นค่าปลงศพ กรณีเสียชีวิต
  2. เป็นหลักประกันให้โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลว่าจะได้รับค่ารักษาพยาบาลในการรักษาพยาบาลผู้ประสบภัยจากรถ
  3. เป็นสวัสดิการสงเคราะห์ที่รัฐมอบให้แก่ประชาชนผู้ได้รับความเสียหายเพราะเหตุประสบภัยจากรถ
  4. ส่งเสริมและสนับสนุนให้การประกันภัยเข้ามีส่วนร่วมในการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยและครอบครัว

     – ภาคสมัครใจ มี 5 ประเภทได้แก่

ประกันชั้น 1 , ประกันชั้น 2+,ประกันชั้น 2 , ประกันชั้น 3+, ประกันชั้น 3 ซึ่งแต่ละแบบจะมีความค่าเบี้ย ความคุ้มครอง เงื่อนไขการเคลมที่แตกต่างกันออกไป ก่อนการซื้อประกันภัยรถยนต์ท่านควรพิจารณาข้อนี้ด้วย

ตัวอย่างแบบประกันประเภทต่างๆ

2. ความคุ้มครอง

     การทำประกันรถยนต์ควรพิจารณาจากเงื่อนไขต่าง ๆ ของบริษัทประกันให้ชัดเจนว่าคุ้มค่า คุ้มราคาและเปรียบเทียบทุนประกันรวมถึงความคุ้มครองด้านต่าง ๆ จากบริษัทประกันภัย ว่าครอบคลุมเหมาะสม และตรงกับความต้องการของเราหรือไม่ เช่น ค่าสินไหมทดแทน, เงื่อนไขต่าง ๆ ในการเคลม, วงเงินคุ้มครอง, ข้อยกเว้นต่าง ๆ เป็นต้น

3. ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันภัย

     เนื่องจากปัจจุบันมีบริษัทประกันภัยหลายบริษัท จึงทำให้เกิดการแข่งขันกันมากขึ้นในท้องตลาด สิ่งหนึ่งที่ผู้มีรถเมื่ออยากที่จะเลือกซื้อประกันควรพิจารณาจากประวัติบริษัท ความนิยมของบริษัท ณ ช่วงเวลานั้น โดยศึกษาจากข่าวสารต่าง ๆ ว่า บริษัทมีความมั่นคงแค่ไหน จะสามารถชดเชยความเสียหายเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้หรือไม่

4. ช่องทางการบริการ

     เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากหากเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินขึ้น เราควรมีช่องทางที่จะติดต่อตัวแทนบริษัทได้อย่างรวดเร็ว และหลากหลายช่องทาง รวมถึงศูนย์ซ่อมและโรงพยาบาลที่เข้าร่วมกับบริษัทว่ามีเพียงพอ และครอบคลุมทุกพื้นที่หรือไม่

     หากคุณเป็นหนึ่งคนที่รักรถ การมีประกันรถไว้ ย่อมอุ่นใจกว่า ก่อนการซื้อประกันท่านควรศึกษาข้อมูลต่างๆ ให้ครบถ้วน ตรงตามความต้องการของท่าน การใช้รถใช้ถนนของท่านจะเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องคอยกังวลกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นแบบที่เราไม่ทันตั้งตัวอีกต่อไป

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) (oic.or.th),
                          ทิพยประกันภัย ประกันภัยออนไลน์ พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด (dhipaya.co.th),
                           สินเชื่อเงินด่วน อนุมัติไว ประกันภัยคุ้มครองครอบคลุม | ติดล้อ (tidlor.com)