“รู้หรือไม่” ดีอย่างไรหากคุณนำหลักประกัน
เข้ามาขอสินเชื่อ

     “รู้หรือไม่” หากคุณเป็น “ผู้มีหลักประกัน” ถือว่าคุณได้เปรียบคนอื่นเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่มีหลักประกันในการขอสินเชื่อ ณ ครั้งเดียวกันนั้น ไม่ว่าจะเป็น บ้าน รถ หรือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างด้วยก็ดี ล้วนแต่เป็นหลักประกันที่จะช่วยให้คุณได้เพิ่มโอกาสในการที่จะได้รับการพิจารณาสินเชื่อค่อนข้างสูง รวมไปถึงที่คุณจะได้รับพิจารณาในการอนุมัติวงเงินสูง ดอกเบี้ยถูก และอาจได้รับการยกเว้นเงื่อนไขบางข้อจากสถาบันการเงิน ซึ่งเมื่อเทียบกับผู้อื่นหรือการขอสินเชื่อส่วนบุคคลทั่วไป ด้วยคุณภาพของการที่คุณมีหลักประกันนี่เองจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้ได้รับพิจารณาอนุมัติสินเชื่อตามที่คุณต้องการ และทั้งนี้องค์ประกอบอื่นๆก็มีส่วนที่สำคัญด้วยเช่นกันในการเพิ่มโอกาสพิจารณาสินเชื่อไม่ว่าจะเป็น อาชีพ รายได้ หรือที่อยู่อาศัย ล้วนแต่เป็นปัจจัยหลักที่สำคัญทั้งหมด

     ฉะนั้น ”หากคุณได้วงเงินอนุมัติที่สูงแล้ว” ขั้นต่อไปคือการสร้างเครดิตที่ดีให้กับตัวคุณเองด้วยการ ชำระดี ชำระตรง เพื่อสร้างฐานข้อมูลเครดิตและสร้างความน่าเชื่อทั้งปัจจุบันและที่จะมีขึ้นในอนาคต หากมองในมุมสถาบันการเงินผู้ให้บริการสินเชื่อก็ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดีเพราะจะได้ประโยชน์จากการอนุมัตินั้นในรูปแบบที่เป็น “ดอกเบี้ย” อีกทั้งยังได้กลุ่มลูกค้าที่ดีและมีคุณภาพทางเครดิตที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ให้บริการสินเชื่อ และรวมไปถึงตัวคุณเองอาจได้รับสิทธิพิเศษต่างๆจากผู้ให้บริการสินเชื่อ อาทิ การได้สิทธิเพิ่มวงเงินหากชำระดี ชำระตรง ตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ของสถาบันการเงินนั้นอีกด้วย

     ดังนั้นแล้วขอสรุปแบบย่อๆ ในส่วนของหลักประกันไม่ว่าจะเป็น บ้าน รถ ที่ดิน  ย่อมสำคัญกับระบบภาคการเงินทั้งการขอสินเชื่อและการให้บริการสินเชื่อ ข้อดีของผู้ขอสินเชื่อเองนั้นจะถือได้ว่าเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มลูกค้าที่คุณภาพดีและอาจรวมไปถึงผู้มีเครดิตที่เหนือกว่ากลุ่มที่ไม่มีหลักประกันในการทำธุรกรรม ณ ครั้งเดียวกัน ทั้งหมดนี้ที่กล่าวมาก็จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยให้เพิ่มโอกาสในการพิจารณาอนุมัติ และยังอาจได้รับวงเงินอนุมัติที่ค่อนข้างสูงตรงกับความต้องการของผู้ขอสินเชื่ออีกด้วยนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา : บทบาทของหลักประกันในการขอสินเชื่อ ในภาคการธนาคารยุคใหม่ (krungsri.com)